Mono Vampire หายไปไหน
เมื่อพูดถึงทีมบาสเก็ตบอลไทยที่เคยสร้างกระแสโด่งดังที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา Mono Vampire น่าจะชื่อที่อยู่ในใจแฟนบาสไทยหลายๆคน แต่อีกหนึ่งคำถามที่ตามมาคือ ทีมนี้หายไปไหน ก่อนที่จะเข้าเรื่องผมคงต้องเล่าประวัติทีมนี้คร่าวๆก่อน
ทีมนี้ก่อตั้งครั้งแรกโดย Mono Group เจ้าของช่อง Mono 29 ที่เรารู้จักกันนั่นแหละ ตั้งแต่เมื่อปี 2014 หรือประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ผมเชื่อว่าเด็กๆรุ่นใหม่หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นรุ่นๆผมแล้วนับว่าทีมนี้ถือเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอันดับต้นๆของไทยเลยก็ว่าได้ เพราะว่าตั้งแต่ปีแรกที่ทีมลงทำการแข่งขันในรายการ Thailand Basketball League (TBL) หรือ Basketball Thai league (BTL) ในปัจจุบัน ก็สามารถจบ 3 อันดับแรกได้เลยทันที ( บางแหล่งข้อมูลอ้างว่าสามารถจบอันดับที่ 2 บางแหล่งก็อ้างว่าจบอันดับที่ 3 )
แต่พอมาในปี 2015-2017 Mono Vampire ก็สามารถคว้าแชมป์รายการ TBL ได้ 3 สมัยซ้อน โดยเอาชนะทีม Mono Thewphaingarm ในปี 2015 และ Hi-Tech ในปี 2016-2017 เรียกได้ว่าเป็นทีมบาสเก็ตบอลหน้าใหม่ที่มาแรงที่สุดในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ นอกจากความแข็งแกร่งสุดๆภายในประเทศแล้ว ในระดับอาเซียนก็ไม่แพ้กัน เพราะปี 2018 ในรายการ ASEAN Basketball League (ABL) เจ้าทีมค้างคาวสีส้มก็สามารถทะลุผ่านไปถึงรอบชิงไปเจอกับ San Miguel Alab Pilipinas แต่ดันพลาดท่าแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย 3-2 เกม
ยุคทองของทีม Mono Vampire
เรียกได้ว่าในยุคนั้น Mono Vampire แข็งแกร่งจริงๆ จนเป็นเหตุให้หลายๆทีมในประเทศไทยต้องมีการพัฒนาตามๆกันขึ้นมา ซึ่งเป็นผลดีอย่างมากในวงการบาสไทยในตอนนั้น กระแสการทำทีมของเจ้าค้างคาวสีส้มนั้นดึงดูดให้ผู้คนหันมาสนใจกีฬาบาสกันเพิ่มมากขึ้น และด้วยที่เจ้าของทีมนั้นทำสื่ออยู่แล้ว จึงมีการจัดการถ่ายทอดสดลงในโทรทัศน์ด้วย ทำให้ผู้ชมเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะสมัยนั้นยังไม่มีอินเทอร์เน็ตที่แพร่หลายเหมือนอย่างทุกวันนี้ ผู้คนยังคงรับชมรายการต่างๆผ่านโทรทัศน์กันอยู่
สาเหตุหลักๆที่ทีมที่เพิ่งสร้างได้ไม่นานแข็งแกร่งขนาดนี้จนกลายเป็นยุคทองมีปัจจัยหลักอยู่ 3 ข้อครับคือ
-
การบริหารจัดการและทุนสนับสนุนที่มั่นคง
- การบริหารและการสนับสนุนที่มั่นคง โดยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารทีมสมัยนั้นเล็งเห็นว่า ควรที่จะผลักดันกีฬาบาสเกตบอลไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับภูมิภาคและระดับเอเชีย
- การลงทุนที่สูง สโมสรทุ่มเทงบประมาณจำนวนมากในการบริหารจัดการทีม การพัฒนาสนามฝึกซ้อมและสนามแข่งขันมาตรฐานอย่าง Stadium 29 ที่เรียกได้ว่าเป็นสนานที่ดีที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้
- การตลาดและสื่อ Mono Group ใช้ความแข็งแกร่งด้านสื่อ (ช่องทีวี, เว็บไซต์) ในการโปรโมตและถ่ายทอดสดการแข่งขัน ทำให้ทีมเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว และทำให้บาสเกตบอลเป็น Sport Entertainment ที่น่าสนใจ
-
การดึงดูดผู้เล่นระดับคุณภาพ
- ผู้เล่นต่างชาติ หรือตัว import นั่นแหละถ้าจะให้เรียกง่ายๆ โดยทีมเน้นดึงผู้เล่นต่างชาติที่มีฝีมือและมีประสบการณ์ที่โดดเด่น ไม่ใช่แค่ตัวสูงอย่างเดียว
- แกนหลักทีมชาติไทย ทีมดึงดูดนักกีฬาไทยระดับทีมชาติมาเป็นแกนหลักของทีมอยู่เสมอ เช่น ชิตชัย อนันติ, ชนะชนม์ กล้าหาญ, และ ดรงค์พันธ์ อภิรมย์วิไลชัย ทำให้ทีมมีรากฐานที่มั่นคงและมีประสบการณ์ในการเล่นร่วมกัน
-
ระบบโค้ชและโครงสร้างทีม
- โค้ชต่างชาติมืออาชีพ สโมสรเลือกใช้บริการโค้ชที่มีความรู้และความเข้าใจในบาสเกตบอลสมัยใหม่ เช่น โค้ชอังเดร อูลิป (Andrei Ulep) ที่เคยได้รับรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี (Coach of the Year) ในลีก ABL ซึ่งนำแท็กติกและระบบการฝึกซ้อมที่เป็นมาตรฐานสากลมาใช้
- การพัฒนาเยาวชน สโมสรให้ความสำคัญกับการปั้นนักกีฬาหน้าใหม่และนักกีฬาเยาวชนเพื่อเป็นกำลังหลักในอนาคต ทำให้ทีมมีความต่อเนื่องและมีนักกีฬาหน้าใหม่ที่มีความกระหายในชัยชนะเข้ามาเสริมทีมอยู่ตลอดเวลา
COVID-19 กับ Mono Vampire จุดเปลี่ยนสำคัญของทีม
การแพร่ระบาดของ COVID-19 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับทีม Mono Vampire ที่กำลังอยู่ในช่วงโมเมนตัมสูง ทีมกำลังทำผลงานได้ดีและยังสามารถไปได้อีกไกล แต่กลับกลายเป็นเจ้าเชื้อตัวนี้ที่มาหยุดไว้
-
การแข่งขัน ABL หยุดชะงัก
ทีมต้องเดินทางข้ามประเทศตลอดฤดูกาลไปแข่งขันกับทีมจาก ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, สิงคโปร์, ฮ่องกง แต่เมื่อพรมแดนปิดและมีมาตรการกักตัว ลีกไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ ทำให้ขาดเวทีหลักในการโชว์ฝีมือและหารายได้
การหยุดชะงักนี้ไม่ได้กระทบแค่เกมการแข่งขัน แต่ยังทำให้ ผู้เล่นขาดโอกาสแสดงฝีมือและสร้างชื่อเสียงระดับนานาชาติ โดยเฉพาะผู้เล่นที่กำลังพัฒนาเพื่อก้าวสู่ทีมชาติ
-
รายได้จากสปอนเซอร์และถ่ายทอดสดหายไป
ช่อง MONO29 ที่ถ่ายทอดสด ABL สูญเสียคอนเทนต์หลัก สปอนเซอร์ไม่สามารถโปรโมทผลิตภัณฑ์ได้ และหลายบริษัทต้องรัดเข็มขัด ทำให้รายได้จากการสนับสนุนทีมลดลงทันที
สปอนเซอร์ที่เคยสนับสนุนทีมและกิจกรรมต่าง ๆ ต้องชะลอหรือยกเลิกการลงทุน ส่งผลให้ โมเดลธุรกิจของทีมพังลงทันที
-
รายได้จากผู้ชมและกิจกรรมหายไป
ผู้ชมทางทีวีและออนไลน์ลดลง เพราะไม่มีการแข่งขัน และกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การขายบัตรเข้าชมเกม, การจัดแฟนมีตติ้ง หรือโปรโมชันจากสปอนเซอร์ ก็ต้องยกเลิกทั้งหมด
ยิ่งไปกว่านั้น Mono Group เองต้องปรับตัวไปเน้นสื่อดิจิตอลแทนที่สื่ออนาล็อคแบบเก่า เพราะมันถึงยุคที่อินเทอร์เน็ตกำลังเข้ามาพอดีและผู้ชนก็ดูโทรทัศน์น้อยลงขึ้นทุกวัน ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้เอง ทำให้ ทีมประกาศหยุดส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทุกรายการ
วงการบาสไทย หลังทีมค้างคาวสีส้มถอนตัว
หลังการหายไปของทีมค้างคาวสีส้ม วงการบาสไทย ก็มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ไล่ตั้งแต่ เปลี่ยนชื่อ Thailand Basketball League (TBL) ไปใช้ Basketball Thai league (BTL) แทน และอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่ามีแต่ดราม่าฉ่ำๆซึ่งผมจะไม่ขอพูดในบทความนี้แล้วกันนะครับ
แน่นอนครับว่าเมื่อ 1 ในทีมที่ดีที่สุดได้หายไป ทีมที่ก้าวขึ้นมาครองความยิ่งใหญ่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Hi-Tech คู่ปรับตลอดการของ Mono Vampire ในยุคก่อน ทีม Hi-Tech สามารถคว้าแชมป์รายการ BTL ได้หลายปีติดต่อกัน จนแฟนบาสหลายๆคนยังแซวว่า ผูกขาดลีคไปซะแล้ว มีหลายต่อหลายทีมครับ ไม่ว่าจะหน้าเก่าอย่าง TGE หรือ หน้าใหม่อย่าง CT-Tiger ที่อยากจะโค่นบัลลังก์ของ Hi-Tech ลง แต่จนมาถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีทีมไหนที่สามารถโค่นได้เลย เรียกได้ว่าตอนนี้ Hi-Tech คือทีมที่ครองลีคอย่างแท้จริง
แต่ใช่ว่าทีมค้างคาวสีส้มจะไปแล้วไปลับ เพราะสิ่งที่ทีมทิ้งไว้คือลูกหลานค้างคาวที่ตอนนี้ได้สยายปีกโบยบินไปเล่นในทีมชั้นนำต่างๆในประเทศไทย หลายๆคนก็ติดธงทีมชาติไทยไปแล้วด้วย ยกตัวอย่างเช่นผู้เล่นไทยที่มีผลงานเด่นๆอย่าง ชนะชนม์ กล้าหาญ (สิงห์) , ธีรวัฒน์ จันทะจร (บิ๊ก) และ โสฬส สุนทรศิริ เป็นต้น แม้จะไม่มีทีมอย่าง Mono Vampire แล้วแต่สิ่งที่ทีมนั้นได้ส่งต่อไปยังคนรุ่นถัดไปก็คือผู้เล่นที่มีคุณภาพนั่นเอง
สรุป Mono Vampire จะกลับมายิ่งใหญ่ได้ไหม
คำถามนี้ผมเชื่อว่าน่าจะมีใครหลายๆคนคิดเหมือนกันกับผมว่าถ้า Mono Vampire จะกลับมา จะสามารถกลับไปยืนอยู่ในจุดๆเดิมได้ไหม ทั้งทีก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้บริหารของ Mono Group แล้วละว่ายังเล็งเห็นถึงกำไรในการทำทีมอยู่หรือเปล่า เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าผู้ชมบาสเก็ตบอลในประเทศไทยนั้นเป็นเพียงกลุ่มคนเล็กๆ ไม่ใช่คนกลุ่มใหญ่อย่างฟุตบอลหรือวอลเล่บอล
ส่วนหนึ่งผมก็อยากให้แฟนบาสค้างคาวสีส้มทำใจและยอมรับว่าหนทางในการกลับมาของทีมนั้นช่างริบหรี่เหลือเกิน เพราะทาง Mono Group ตอนนี้ก็หันไปทำสื่อกีฬาเต็มรูปแบบแล้ว อย่างล่าสุดก็เพิ่งคว้าสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอล Premier league มาอีก แต่อย่างน้อยผมก็อยากให้แฟนบาสทุกๆท่านคิดไว้ว่า ทีมนี้เคยปั้นผู้เล่นสำคัญหลายคน และหาก Mono Group กลับมาให้ความสำคัญกับทีมอีกครั้ง อนาคตค้างคาวสีส้มก็อาจสามารถกลับมาสร้างตำนานบทใหม่ก็ได้ใครจะรู้

